Pye หรือ พาย บริษัทออกแบและตกแต่งภายใน กับโฆษณา 2 ตัวกับแนวคิด สะท้อนให้เห็นว่างานออกแบบก็เหมือนกับมุมมองความรัก

ที่จริงเห็นบทความนี้นานแล้วบนเว็บไซท์ MarketingOops! แต่พึ่งจะได้เข้ามาอ่านจริงๆจังๆวันนี้ ที่สนใจตัวบทความนี้ก็เพราะว่าบทความได้พูดถึงวิดีโอสองตัวที่มีลักษณะเป็นหนังสั้น และที่สำคัญคือมีเรื่องราวที่เกี่ยวกับเพศที่สามเข้ามาเกี่ยวข้อง

Ad ทั้งสองตัวนี้เป็นวิดีโอโฆษณาสองตัวจากแคมเปญจ์ "Life as a choice" ซึ่งต้องการสื่อสารให้กับสังคมทั่วไปเข้าใจถึงความหลากหลายและเสน่ห์ของเพศทางเลือกเหล่านี้มากยิ่งขึ้น และยังเป็นการขยายกลุ่มลูกค้าไปยังกลุ่มเพศที่สามอีกด้วย

“เราทำหนังสั้น 2 เรื่องที่จบได้ 2 แบบ โดยเรื่อง ‘Life as a choice’ หรือ ‘ชีวิตที่เลือกได้’ จะช่วยตอบโจทย์ความรักของกลุ่มเพศเดียวกัน ในขณะเดียวที่เรื่อง ‘Choices for lives’ หรือ ‘ทางเลือกเพื่อทุกชีวิต’ จะตอบโจทย์ชีวิตคนทุกคนได้เอาใจคนมีครอบครัว ซึ่งไม่ว่าจะเป็นเรื่องไหน คนดูจะเป็นผู้ตัดสินว่าชอบตอนจบแบบไหน ความรักแบบไหนที่เขาเลือก สะท้อนให้เห็นว่างานออกแบบก็เหมือนกับมุมมองความรัก คือการเลือกในแบบที่คุณชอบและเป็นคุณ”

ณัชชา โชติเวทธำรง แบรนด์แมเนเจอร์ บริษัท ออกแบบ พาย จำกัด

จะมัวพูดพร่ำอยู่ทำไมขอเชิญทุกท่านรับชมกับวิดีโอโฆษณาทั้งสองตัวจาก Pye กันเลยดีกว่า

ชีวิต.. ที่เลือกได้ ‘Life as a choice’ 

ทางเลือก.. เพื่อทุกชีวิต ‘Choices for Lives’ 

Pray For Anna วิดีโอโฆษณาที่เรียกได้ว่าคิดมาอย่างดี และสร้างความประทับใจให้กับหลายๆคนอย่างแน่นอน

Pray For Anna เป็นวิดีโอที่สร้างขึ้นโดย Taya Soon.. ซึ่งผมได้รับการแชร์มาจากแฟนของผมเองบน Facebook ในครั้งแรกที่เห็ฯผมคิดว่านี่มันต้องเป็นการโฆษณาเพื่อเตือนให้ชาวต่างชาติมาเที่ยวในไทยอย่างระมัดระวังแน่นอน ต้องเกี่ยวกับการลักพาตัวชาวต่างชาติ เพื่อขโมยอวัยวะ หรือฆ่าทิ้ง หรืออาชญากรรมรูปแบบต่างๆ ซึ่งพบได้ในประเทศไทย แต่ท้ายที่สุดเฉลยปมกับเป็นเรื่องของอาหาร เรื่องของการกินในประเทศไทย ใครที่อยากรู้ว่ามันกลายเป็นแบบนั้นได้อย่างไร ก็ต้องลองดูกันแล้วล่ะครับ

ทั้งนี้เองผมไม่แน่ใจว่า Taya Soon.. จริงๆแล้วเป็นใครกันแน่ แต่ใน video ที่เขาได้อัพโหลดลงบนเว็บไซท์ vimeo ค่อนข้างทำให้ผมเชื่อว่าเขาเป็นผู้กำกับชาวไทย ที่ทำโฆษณาโดนๆมาหลายตัวแล้วเหมือนกัน เช่น โฆษณาของฟิชโช่ชื่อว่า "เซ็ง" และ โฆษณาแคมเปญจ์ Stop Teen Mom ที่มีประโยคเด็ดว่า "จะเอายังไง"

ถือว่าเป็นผู้กำกับที่สร้างโฆษณาออกมาหลายตัวได้แปลกใหม่ น่าสนใจ และสร้างอารมณ์ร่วมให้กับผู้ชมอย่างเราๆได้อย่างดีเลยทีเดียว

'Pray for Anna' She totally paralyzed, unable to speak and move, after visiting Thailand. from Taya Soon.. on Vimeo.


อัพเดทเพิ่มเติมวันที่ 17 กรกฎาคม 2558: โฆษณานี้ทำให้กับการท่องเที่ยวไทยครับ โปรโมทการท่องเที่ยวในประเทศไทย :)

ความรู้สึกก่อนจะได้เริ่มฝึกงานแบบจริงจังครั้งแรก

Image Source: http://www.canon.com.sg/thinkbig/5-tips-to-stay-motivated-in-your-business/

ในวันก่อนที่จะเริ่มการฝึกงาน คงเป็นวันที่สร้างความตื่นเต้นให้กับเราได้ไม่น้อย เพราะเราไม่รู้ว่าเราจะเจอกับอะไรบ้างในที่ทำงาน คนที่นั่นจะเป็นยังไง สภาพการทำงาน สถานที่ การเดินทาง และอีกหลายๆอย่าง แต่วันที่สำคัญกว่าก็คือวันที่เราเริ่มฝึกงานจริงๆ วันที่เราจะตื่นเช้าเป็นพิเศษ มีพละกำลังมีแรงเป็นพิเศษ แม้ว่าจะนอนไม่ค่อยหลับเพราะตื่นเต้นมากก็ตาม

ผมก็รู้สึกเช่นเดียวกับผู้อ่านทุกท่านที่เคยผ่านประสบการณ์เช่นนี้มาแล้ว ในวันก่อนฝึกงานผมใช้เวลาก่อนนอนไปกับการเตรียมตัว นอนก็ไม่ค่อยหลับ หลับๆตื่นๆ จนกระทั่งเสียงนาฬิกาปลุกที่ตั้งไว้ตอน 6:30 ดังขึ้น ผมสะดุ้งตื่นด้วยความฉับไว รีบเตรียมตัวเดินทางไปฝึกงาน พอถึงที่ฝึกงานก็เจอคนมากหน้าหลายตา ทั้งที่เป็นพี่ๆพนักงาน รวมไปถึงคนที่มาเริ่มฝึกงานด้วยกัน

ความสับสนอลหม่าน

การทำงานวันแรกมันเป็นอะไรที่สร้างความสับสนให้กับผมมาก เพราะไม่รู้ว่าจะต้องทำอะไรบ้าง สิ่งต่างๆยังดูไม่เข้าที่ ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร การประชุมงานก็ไม่ได้ช่วยเท่าใดนัก เพราะสุดท้ายผมก็ยังนั่งอยู่เฉยๆ มึนงงกับเรื่องราวต่างๆมากมายที่เข้ามาในหัวสมอง สิ่งที่ต้องทำดูเยอะไปหมด แต่ตัวผมเองกลับไม่รู้ว่าจะเริ่มที่จุดใดเสียที ในวันนั้นผมจึงพยายามเรียนรู้จากสิ่งที่พี่ๆที่บริษัทเคยทำเอาไว้ก่อนหน้าแล้ว อาจจะลืมบอกไป แต่บริษัทที่ผมฝึกงานเป็นบริษัท start-up จึงไม่เคยมีแผนกการตลาดมาก่อน และผมก็น่าจะเป็นเด็กฝึกงานคนแรกที่มาฝึกงานสายการตลาดที่นี่ นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมจับหลักอะไรไม่ได้เลย และไม่มีใครสอนงานผมได้เท่าไหร่นักด้วย

โอกาสในสถานการณ์ไม่เป็นใจ

ลองคิดดูว่าถ้าสมมติคุณอยู่ในสถานการณ์ที่ชวนให้กังวลใจแบบนี้ คุณจะทำยังไง จะเริ่มทำอะไร แบบไหน สถานการณ์แบบนี้มักจะชวนให้ท้อและหดหู่ มันเหมือนเป็นแรงกดดันอย่างหนึ่งที่พุ่งเข้ามาใส่เราแบบจังๆ สิ่งที่ผมต้องตัดสินใจภายในวันนั้นคือ ผมจะสู้ต่อไปอย่างไร หรือผมจะยอมแพ้แล้วก็นั่งอยู่ที่ออฟฟิซไปเรื่อยๆ ผมจะปล่อยให้ตัวเองจมอยู่กับความสับสน หรือเริ่มต้นทำอะไรสักอย่างนับจากวันนั้น มันเป็นการตัดสินใจที่ยากลำบาก ยิ่งสำหรับประสบการณ์ทำงานจริงๆครั้งแรกของเรา มันเหมือนเราพึ่งเริ่มหัดเดิน และมันเป็นก้าวที่เราต้องเหยียบลงไปในพื้นที่เราไม่รู้ว่าทำมาจากอะไร จะพาเราไปไหน

เรียนรู้และพัฒนา

สุดท้าย...ผมก็ตัดสินใจที่จะก้าวเดินไป เพราะถ้าเราไม่ก้าวตอนนี้ เราก็คงเสียโอกาสสำคัญที่เราจะได้เรียนรู้ว่าการเดินนั้นเป็นอย่างไร เราจะเดินไปไหน และพื้นที่เราเหยียบลงไปนั้นจะเย็นจะร้อน จะแข็งจะนิ่มอย่างไร ใช่แล้วครับ ผมเริ่มทำทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมทำได้ สิ่งแรกคือหาความรู้ที่จำเป็นเพิ่มเติม (แม้จะใช้เวลาสักหน่อย) และเริ่มนำความรู้เหล่านั้นมาใช้ มาปรับปรุงกับสิ่งต่างๆ แบ่งปันแนวคิดแบบการตลาดให้กับคนในทีม เพื่อให้เกิดการพัฒนา การนำไปประยุกต์ใช้ในกระบวนการคิดมากขึ้น

อุปสรรคก็เป็นหนึ่งในแรงบันดาลใจ

แน่นอนว่าผมต้องฝ่าฟันอุปสรรคอีกเยอะ ทั้งเสียงคัดค้าน และข้อสงสัยต่างๆมากมาย การประชุมที่แสนเข็ญ การฟาดฟันกันทางความคิดอีกหลายครั้ง หลายๆครั้งมันก็สร้างความท้อแท้ให้กับผม แต่หลายๆครั้งผมก็เฝ้าบอกตัวเองเสมอว่าสิ่งเหล่านี้มันคือการย้ำเตือนว่าเรายังสามารถพัฒนาได้อีก นั่นทำให้ผมต้องปรับตัวและพยายามพัฒนาและเรียนรู้ต่อไป จุดจบของการฝึกงานนี้คงอยู่อีกไม่ไกล แต่จุดจบสู่ความสำเร็จนั้นยังต้องใช้เวลาอีกมากมาย ซึ่งผมก็คงต้องพยายามเรียนรู้จากบทเรียนชีวิตต่างๆ และพัฒนาศักยภาพของตัวเองให้เพิ่มขึ้นต่อไป


คว้าโอกาสเอาไว้ เรียนรู้จากทุกสิ่งทุกอย่างที่ผ่านเข้ามา ใช้แรงกดดันเป็นแรงบันดาลใจที่จะช่วยให้เราเกิดความพยายามที่จะพัฒนาตัวเอง ผมเชื่อว่าสิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่จำเป็นสำหรับคนที่อยากประสบความสำเร็จในชีวิตครับ ขอบคุณครับ